แชร์

ข้อกำหนดการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมสำหรับชาวต่างชาติ

อัพเดทล่าสุด: 1 พ.ย. 2025
1617 ผู้เข้าชม

ในประเทศไทย ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคอนโดมิเนียม พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 4)  โดยมีข้อกำหนดสำคัญดังนี้

ข้อกำหนดการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมสำหรับชาวต่างชาติ
 
1. จำกัดกรรมสิทธิ์ไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมดของอาคาร
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมดของอาคาร (รวมพื้นที่ขายได้ทั้งหมด) ส่วนที่เหลือ 51% ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของคนไทยหรือบริษัทไทย

2. ต้องมีการโอนเงินจากต่างประเทศ
เงินที่ใช้ในการซื้อคอนโดมิเนียมต้องโอนจากต่างประเทศและต้องมีหลักฐานการโอนเงิน (Foreign Exchange Transaction Form หรือ FET) เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของเงิน

3. ต้องได้รับการยืนยันจากนิติบุคคลอาคารชุด
ก่อนการซื้อ ควรตรวจสอบกับนิติบุคคลอาคารชุดเพื่อยืนยันว่าอาคารนั้นยังมีโควตาการถือครองกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติที่ยังว่างอยู่หรือไม่

️ ⚠️ ข้อควรระวัง

การถือครองกรรมสิทธิ์เกินโควต้า  หากกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติในอาคารนั้นถึง 49% แล้ว การซื้อคอนโดมิเนียมในอาคารนั้นจะต้องเป็นการเช่า (Leasehold) เท่านั้น 

การสืบทอดกรรมสิทธิ์: กรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียมที่ถือครองโดยชาวต่างชาติไม่สามารถสืบทอดให้กับชาวต่างชาติคนอื่นได้โดยตรง หากผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิมเสียชีวิต ผู้สืบทอดจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

 

แหล่งที่มา :  Thailand Property Law, Thailandlawonline, Samuiforsale - Legal Aspects of Buying & Owning Condos in Thailand

   รับฟรี! รายงาน TIR (ROI) และนัดปรึกษาการลงทุน

 

 ความแตกต่าง: Freehold vs Leasehold สำหรับชาวต่างชาติในไทย

ลักษณะ Freehold (กรรมสิทธิ์สมบูรณ์) Leasehold (สิทธิการเช่า)
  • ความเป็นเจ้าของ
  • เจ้าของจะถือครองหน่วยคอนโดในชื่อของตนเองอย่างถาวร (ตราบเท่าที่อยู่ภายใต้โควต้าต่างชาติ)
  • ผู้เช่าได้รับสิทธิใช้งาน / ครอบครองหน่วยในระยะเวลาที่กำหนดโดยสัญญาเช่า
  • เงื่อนไขทางกฎหมาย
  • สำหรับคอนโดภายใต้ Condominium Act มาตรา 19 ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้ถ้า ไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมยูนิตทั้งหมด
  • สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 30 ปีตามมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
  • ต่ออายุสัญญา
  • ไม่มี ต่ออายุ เพราะกรรมสิทธิ์อยู่ถาวร
  • สัญญาเช่าควรกำหนดเงื่อนไขต่ออายุได้ แต่ ไม่สามารถบังคับ ต่ออายุอัตโนมัติได้ตามกฎหมายไทย
  • การโอนกรรมสิทธิ์ / การขาย
  • เจ้าของสามารถขาย โอน หรือจำนองได้ตามกฎหมายคอนโด
  • ผู้เช่ามักไม่มีสิทธิขายสิทธิการเช่าโดยไม่มีการยินยอมจากเจ้าของที่ดิน / เจ้าของอาคาร
  • สิทธิ์การออกเสียง / การประชุมเจ้าของร่วม
  • มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมในอาคารและเข้าร่วมประชุมกรรมสิทธิ์ร่วม (Juristic Person)
  • โดยทั่วไป ผู้เช่าไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมเจ้าของร่วมหรือจัดการอาคารรวม
  • ความเสี่ยง / ข้อจำกัด
  • ต้องตรวจสอบว่าโควต้าต่างชาติเหลืออยู่หรือไม่ก่อนซื้อ
  • สัญญาเช่าที่เกิน 30 ปีอาจถูกลดให้เหลือ 30 ปีโดยกฎหมาย ถ้ามีข้อผูกมัด 30+30+30 อัตโนมัติ อาจถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย
  • เหมาะกับใคร
  • สำหรับผู้ที่ต้องการถือครองระยะยาว ต้องการความมั่นคง
  • ผู้ที่ไม่พอใจกับโควต้าต่างชาติเต็ม หรือผู้ที่ต้องการอาศัย/ใช้ในระยะกลางโดยไม่ต้องลงทุนเต็มราคา

 

แหล่งที่มา : Thailand Law Online, Benoit & Partners, Thailand Property Law, Addleshaw Goddard


 ข้อมูลสำคัญและข้อควรรู้เพิ่มเติม
  • หากโควต้าต่างชาติในตึกคอนโดเต็ม (เกิน 49%) ชาวต่างชาติจะถูกเสนอให้เช่าภายใต้สัญญาเช่า (Leasehold) แทนกรรมสิทธิ์แบบ freehold
  • แม้ว่าสัญญา 30+30+30 (เช่า 30 ปี + ต่ออีก 30 ปี + ต่ออีก 30 ปี) มักถูกโปรโมท แต่ตามคำตัดสินของศาลฎีกาและกฎหมายไทย Clause ต่ออายุอัตโนมัติเกิน 30 ปีอาจไม่ถูกบังคับใช้ 
  • Leasehold ที่เกิน 3 ปีต้องจดทะเบียนกับกรมที่ดินเพื่อให้มีผลต่อบุคคลที่สาม (legally enforceable)
  • Freehold คอนโดสามารถถ่ายทอดกรรมสิทธิ์ (inheritance) ได้ แต่ผู้รับโอนต่างชาติต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 19* ของกฎหมายคอนโด

* การถือครองคอนโดของชาวต่างชาติในประเทศไทย (Foreign Condominium Ownership in Thailand)

ภายใต้ พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 (มาตรา 19) ชาวต่างชาติสามารถ ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดแบบ Freehold ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดในโครงการ ส่วนที่เหลือต้องเป็นของบุคคลหรือนิติบุคคลไทย


ผู้ซื้อ ต้องโอนเงินจากต่างประเทศ เพื่อใช้ซื้อห้องชุด และแสดงหลักฐาน ใบรับรองการโอนเงิน (Foreign Exchange Transaction Form FET) ต่อกรมที่ดินในวันโอนกรรมสิทธิ์


หาก โควต้าต่างชาติเต็ม (เกิน 49%) ผู้ลงทุนยังสามารถถือครองได้ในรูปแบบ Leasehold (เช่าระยะยาว 30 ปี ต่อสัญญาได้) ซึ่งให้สิทธิ์การใช้ประโยชน์คล้าย Freehold แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

  • Freehold = กรรมสิทธิ์ขาด (เฉพาะโควต้าต่างชาติ 49%)
  • Leasehold = สิทธิ์เช่าระยะยาว 30 ปี (ต่อสัญญาได้)

 

  การเข้าใจความแตกต่างของสองรูปแบบนี้ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติสามารถวางแผน กลยุทธ์การถือครอง

(Ownership Strategy) และประเมิน ผลตอบแทน (Return on Investment) ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

 รับฟรี! รายงาน TIR (ROI) และนัดปรึกษาการลงทุน

อ้างอิง: พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522, กรมที่ดิน, Thailandlawonline.com, Samuiforsale.com
 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Liquidity & Exit Strategy: ปัจจัยลับอสังหาฯ กำหนด IRR 2025
เจาะลึก Liquidity Risk และ Exit Strategy ในตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต พร้อมช้อมูลการประเมิน DOM, IRR และ Top 5 โซนสภาพคล่องสูงมากที่่สุดของภูเก็ต 2025
12 พ.ย. 2025
บทวิเคราะห์กลยุทธ์คอนโดหรูแบบจำลองเพื่อหาผลตอบแทนที่แท้จริง
เจาะลึกการเปรียบเทียบโครงการลักชัวรี่สุดหรูใน Phuket ด้วย TIR Modeling สำหรับ Risk Adjusted Returns 10 ปี สำหรับ HNWIs IRR 17.2%
27 ต.ค. 2025
Capital Gain ที่ดินบางเทาภูเก็ต การคาดการณ์ ≈240 ล้านบาท/ไร่
บางเทา-เชิงทะเล ภูเก็ต ดินแดนแห่งความใฝ่ฝันของนักลงทุน. ชี้โอกาส Branded Residence ก่อนราคาที่ดินพุ่ง 240 ล้าน/ไร่! รับ IRR White Paper จาก Angie.
13 ต.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy